ออกแบบบ้านเอง กับ 7 เทรนด์การออกแบบและสร้างบ้านน่าอยู่ในโลกอนาคต
ออกแบบบ้านเอง ให้น่าอยู่ไม่ใช่เรื่องยาก เพราะการออกแบบบ้านก็คล้ายกับการออกแบบแฟชั่นเสื้อผ้าก็ว่าได้เช่นกัน ซึ่งจะเห็นได้จากเวลาที่มีแบบบ้านเทรนด์ใหม่ๆออกมาก็จะได้รับความนิยมกันอย่างเป็นวงกว้าง หลายโครงการก็นำไปก่อสร้างบ้านไว้ขายให้กับลูกค้า อย่างเช่นมีช่วงหนึ่งกระแสของการนำไม้ระแนงมาตกแต่งให้เป็นสไตล์บ้านแบบโมเดิร์น บ้านที่สร้างใหม่ในช่วงนั้นก็จะสร้างในสไตล์โมเดิร์นเกือบทั้งหมด นอกจากเรื่องแบบบ้านแล้วเรื่องอายุของวัยที่สร้างบ้านก็เริ่มมีการเปลี่ยนไปจากเดิมที่เคยอยู่ในช่วงอายุ 45 -60 ปี มาเป็นช่วงอายุ 25 – 40 ปี ซึ่งจะเริ่มมีอายุน้อยลงเรื่อยๆ ฉะนั้นเรามาลองดูกันว่าเทรนด์บ้านในอนาคตนับจากปี 2017 ไปอีก 3 ปีจะมีแนวโน้มไปในทิศทางไหนกันค่ะ
1.Eco Friendly
Eco Friendly หรือที่เรียกได้ว่าบ้านประหยัดพลังงานและรักษ์สิ่งแวดล้อมที่ออกแบบโดยการเน้นความ “โปร่ง โล่ง สบาย” เป็นหลัก บ้านลักษณะนี้จึงถูกออกแบบตาม concept ของคำนิยามดังกล่าว วัตถุประสงค์ของการสร้างบ้าน Eco Friendly ก็เพื่อรับลมและความเย็นจากธรรมชาติ ในขณะเดียวกันก็ยังช่วยป้องกันความร้อนที่จะเข้าไปสะสมในบ้านทำให้สามารถลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานและใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างคุ้มค่าโดยไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งการออกแบบบ้านจะเน้นไปในแนวทางวิถีธรรมชาติ (Passive Cooling) เป็นส่วนสำคัญ แต่ก็ยังคงผสมผสานเทคโนโลยี (Active Cooling) รวมทั้งการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์เพื่อเก็บพลังงานทดแทนนำมาใช้เป็นกระแสไฟหมุนเวียนใช้ในบ้านได้
2.Small is Cool
บ้านพื้นที่เล็กแต่ประโยชน์ใช้สอยเพียบ จากการสำรวจของ IFDA (International Furnishings and Design Association) พบว่ากว่า 49% ของคนอเมริกันมีความต้องการบ้านขนาดเล็กลงแต่สามารถตอบสนองได้ทุกความต้องการ โดยอาจออกแบบบ้านด้วยการลดขนาดห้องบางห้องที่ใช้ประโยชน์น้อยที่สุดลง หรือรวมห้องบางห้องเข้าด้วยกันแล้วมาใช้งานในลักษณะแบบมัลติฟังก์ชั่น และ 76% ของการสำรวจยังพบว่าห้องที่คิดว่าควรตัดออกคือห้องทานอาหาร หรือห้องนั่งเล่นที่เป็นทางการออก แล้วเปลี่ยนเป็นห้องที่สามารถใช้งานได้หลากหลายของสมาชิกภายในบ้าน ซึ่งจะสอดคล้องกับอีก 92% ที่คิดว่าห้องที่สร้างมาสำหรับส่วนตัวของคนแค่คนเดียว เช่น ห้องทำงานของพ่อ ควรต้องกลายมาเป็นห้องของส่วนรวมเสียมากกว่า
3.Home Tech บ้านอัจฉริยะ
ในอนาคตการสร้างบ้านแบบรุ่นใหม่จะต้องออกแบบโดยคำนึงถึงการรองรับเทคโนโลยีที่กำลังมีการพัฒนาไปอย่างก้าวหน้าเรื่อยๆ อย่างไม่มีวันจบสิ้น จึงสามารถตีความหมายได้ว่าทุกบ้านเริ่มมีการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาอำนวยความสะดวกสำหรับการอยู่อาศัยเพิ่มมากขึ้น ซึ่งคาดว่าในปี 2020 บ้านที่สร้างใหม่ทุกหลังจะมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบบางอย่าง เช่น การควบคุมระบบไฟฟ้าภายในบ้านด้วยรีโมท, Gesture Control หรือการสั่งงานด้วยเสียง เป็นต้น
4.Elderly Care บ้านสำหรับผู้สูงอายุ
ด้วยวิชาการแพทย์ในปัจจุบันทำให้สัดส่วนประชากรผู้สูงอายุมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น โดยคิดเป็น 10% ของประชากร ดังนั้นการสร้างบ้านจึงต้องออกแบบและปรับเปลี่ยนรายละเอียดต่างๆเพื่ออำนวยความสะดวกและสอดคล้องกับความต้องการของผู้สูงอายุ
5.Cluster บ้านหลายหลังในพื้นที่เดียวกัน
คาดว่าในอนาคตข้างหน้าราคาที่ดินจะมีการขยับตัวสูงขึ้น ผู้คนจึงมักนิยมรวมตัวกันซื้อที่ดินผืนใหญ่เพื่อปลูกบ้านอาศัยอยู่บนพื้นที่เดียวกัน แล้วใช้ที่ว่างที่เหลือเป็นพื้นที่ส่วนรวม เช่นเป็นที่จอดรถ สระว่ายน้ำ สวนของบ้าน ซึ่งเราจะเรียกบ้านลักษณะนี้ได้ว่า “Multi Family”
6.Back to nature บ้านอิงธรรมชาติ
การกลับคืนสู่ธรรมชาติเริ่มเป็นสิ่งที่คนเมืองถวิลหามากขึ้น เพราะต้องการอยู่อย่างเงียบสงบ ร่มรื่น มีที่ให้พักผ่อนหย่อนใจ ใกล้ชิดธรรมชาติมากขึ้นด้วยการสร้างบ้านแบบเปิดโล่งเพื่อเปิดรับลมและแสงธรรมชาติ มีการแบ่งพื้นที่บางส่วนเพื่อทำสวน ปลูกผัก ปลูกสมุนไพรไว้นำมาปรุงอาหารในครัวเรือน
7.Personalization Selected บ้านตามความต้องการส่วนบุคคล
จากที่เทรนด์การสร้างบ้านเรื่องของการลดขนาดบ้านหรือห้องบางห้องลง เพื่อให้บ้านได้เป็นบ้านสำหรับทุกคนอย่างแท้จริง เช่นบางบ้านปรับเปลี่ยนห้องรับแขกให้เป็นห้องหนังสือหรือห้องทำงานของทุกคนในครอบครัว จึงเป็นที่มาของบ้านแบบ Open Plan ที่สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นการใช้งานภายในบ้านให้มีความหลากหลายตามความต้องการส่วนบุคคลของผู้อยู่อาศัย
นอกจากเทรนด์การออกแบบและสร้างบ้านทั้ง 7 แล้ว บ้านในอนาคตยังเน้นให้ความสำคัญกับเรื่องต่างๆ ดังนี้
- เน้นความสำคัญของห้องน้ำ : บางคนอาจจะใช้ห้องน้ำเพื่อเป็นที่ผ่อนคลายทั้งสำหรับการอาบน้ำและดูแลตัวเอง การตกแต่งห้องน้ำจึงเพิ่มความสะดวกสบายมากขึ้นด้วยการใช้อ่างอาบน้ำ และติดจอโทรทัศน์
- เน้นประโยชน์ใช้สอยของเฟอร์นิเจอร์มากขึ้น : เฟอร์นิเจอร์ที่สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นให้มีความหลากหลายได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของบ้านในยุคสมัยใหม่ที่เน้นพื้นที่ใช้สอยเล็กลง แต่ใช้งานได้คุ้มค่ามากขึ้น ซึ่งนั่นก็คือการใช้เฟอร์นิเจอร์แบบบิ้วท์อินที่นอกจากจะใช้งานได้สะดวกยังไม่เปลืองเนื้อที่ใช้สอยในบ้านอีกด้วย
- สร้างสีสันด้วย LED : การติดระบบไฟ LED เพื่อเติมจินตนาการแนว sci-fi ให้กับบ้านและสร้างสีสันรวมทั้งบรรยากาศของบ้านให้ดูไม่น่าจำเจจนเกินไป
- เพิ่มโต๊ะทานข้าวในห้องครัว : จากการปรับเปลี่ยนขนาดห้องให้ลดลงการมีห้องทานข้าวจึงเป็นสิ่งที่ไม่เป็น ฉะนั้นการก่อสร้างห้องครัวให้มีขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อเพิ่มโต๊ะทานข้าวของครอบครัวเข้าไปจะถือได้ว่าช่วยประหยัดพื้นที่และค่าใช้จ่ายรวมทั้งยังได้สร้างบรรยากาศที่อบอุ่นให้กับครอบครัวอีกด้วย